พืช ผักและผลไม้ เป็นแหล่งของอาหารที่สำคัญที่ร่างกายควรจะได้รับ
คือ วิตามินและแร่ธาตุ และพบว่า วิตามินซี และเบตาแคโรทีน ซึ่งมีมากในผลไม้ประเภทส้ม ผักใบเขียว ผลไม้สีเขียว-เหลือง มีส่วนป้องกันไขมันไปเกาะที่ผนังของเส้นเลือดและป้องกันมะเร็งได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ทั้งพืชผักและผลไม้ตลอดทั้งปี สามารถจะเลือกกินได้และมีราคาไม่แพงมากนัก การส่งเสริมให้กินพืชผักและผลไม้เป็นประจำจึงเท่ากับเป็นการป้องกันการเกิดโรคแทนการรักษาเมื่อเป็นโรค ซึ่งเท่ากับเป็นการลดค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพได้ทางหนึ่ง
การรับประทานผักและผลไม้ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีทั้งวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งมีส่วนสำคัญช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ในผักแต่ละชนิดยังมีสีสันที่แตกต่างกันไปชวนให้ยิ่งน่ารับประทานมากขึ้น ซึ่งสีสันสดใสไม่ว่าจะเป็นแดง เขียว ส้ม ม่วง ขาว เหล่านี้นี่แหละคือสารอาหารสำคัญในการสร้างภูมิต้านทานโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย
ควรรับประทานผักผลไม้ให้ได้ทุกมื้อทุกวัน
เทคนิคง่ายๆที่ช่วยไม่ให้การรับประทานผักกลายเป็นเรื่องจืดชืดจำเจ คือการสร้างสรรค์เมนูผักตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นผัดผัก ต้มแกง ผักจิ้มน้ำพริก เครื่องเคียงในอาหารยำ สลัดผักผลไม้ โดยเลือกผักผลไม้ชนิดต่างๆให้หลากหลาย ผู้ที่ชื่นชอบผักผลไม้เป็นพิเศษอาจจะหั่นผสมลงไปในข้าว กับข้าว หรือเครื่องดื่ม รับประทานผลไม้เป็นอาหารว่างแทนขนมขบเคี้ยว ดื่มน้ำผักหรือน้ำผลไม้คั้นเองสักวันละแก้ว หรือแม้แต่หันมากินข้าวกล้องแทนข้าวขาว ก็เพิ่มคุณค่าให้กับมื้ออาหารได้ไม่น้อย
สีสันในผักผลไม้มาจากสารเคมีตามธรรมชาติที่แตกต่างกัน
– ผักผลไม้สีส้ม สีเหลือง เช่น แครอท ฟักทอง และผักใบเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า ผักบุ้ง บร็อกโคลี จะมีเบต้าแคโรทีนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวการก่อมะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
– ผักผลไม้สีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม มะละกอสุก จะมีไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้เช่นกัน และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้ายได้อีกด้วย
– ผักผลไม้สีเหลือง และผักใบเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด ผักกาด คะน้า ปวยเล้ง ผักโขม จะมีลูทีนและซีแซนทินซึ่งช่วยบำรุงสายตาและป้องกันความเสื่อมของดวงตา
– ผักผลไม้สีม่วง เช่น ดอกอัญชัน กะหล่ำม่วง มะเขือม่วง เบอร์รีชนิดต่างๆ จะมีแอนโทไซยานินซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด และช่วยต้านการอักเสบ